การพิมพ์กราเวียร์เป็นกระบวนการพิมพ์คุณภาพสูงที่ใช้แผ่นโลหะทรงกระบอกพร้อมเซลล์แบบฝังเพื่อถ่ายโอนหมึกลงบนฟิล์มพลาสติกหรือวัสดุพิมพ์อื่นๆ หมึกจะถูกถ่ายโอนจากเซลล์ไปยังวัสดุ ทำให้เกิดภาพหรือลวดลายที่ต้องการ ในกรณีของฟิล์มเคลือบ การพิมพ์กราเวียร์มักใช้กับบรรจุภัณฑ์และฉลาก กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการพิมพ์แบบหรือข้อมูลที่ต้องการลงบนฟิล์มพลาสติกบางๆ ซึ่งมักเรียกว่าฟิล์มด้านนอก หรือฟิล์มด้านหน้า เช่น BOPP, PET และ PA จากนั้นจึงนำไปเคลือบเพื่อสร้างโครงสร้างแบบหลายชั้น ฟิล์มที่ใช้ในการพิมพ์กราเวียร์สำหรับวัสดุเคลือบมักทำจากวัสดุผสม เช่น พลาสติกและฟอยล์อะลูมิเนียมผสมกัน การผสมอาจเป็น PET+ฟอยล์อะลูมิเนียม+PE แบบ 3 ชั้น หรือ PET+PE แบบ 2 ชั้น ฟิล์มลามิเนตคอมโพสิตนี้ให้ความทนทาน มีคุณสมบัติในการกั้นความชื้นหรืออากาศ และช่วยเสริมรูปลักษณ์และสัมผัสโดยรวมของบรรจุภัณฑ์ ในระหว่างกระบวนการพิมพ์กราเวียร์ หมึกจะถูกถ่ายโอนจากกระบอกสูบที่แกะสลักลงบนพื้นผิวฟิล์ม เซลล์ที่แกะสลักจะยึดหมึกไว้ และใบมีดปาดจะกำจัดหมึกส่วนเกินออกจากส่วนที่ไม่ใช่ภาพ เหลือเพียงหมึกในเซลล์ที่เว้าเข้าไป ฟิล์มจะผ่านกระบอกสูบและสัมผัสกับเซลล์ที่เติมหมึก ซึ่งจะถ่ายโอนหมึกไปยังฟิล์ม กระบวนการนี้ทำซ้ำสำหรับแต่ละสี ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการสี 10 สีสำหรับการออกแบบ ก็จะต้องใช้กระบอกสูบ 10 กระบอก ฟิล์มจะวิ่งทับกระบอกสูบทั้ง 10 กระบอกนี้ เมื่อการพิมพ์เสร็จสิ้น ฟิล์มที่พิมพ์จะถูกเคลือบด้วยชั้นอื่นๆ (เช่น กาว ฟิล์มอื่นๆ หรือกระดาษแข็ง) เพื่อสร้างโครงสร้างหลายชั้น พื้นผิวการพิมพ์จะถูกเคลือบด้วยฟิล์มอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ที่พิมพ์จะอยู่ตรงกลาง ระหว่างฟิล์ม 2 แผ่น เหมือนเนื้อสัตว์และผักในแซนวิช มันจะไม่สัมผัสกับอาหารจากด้านใน และจะไม่เกิดรอยขีดข่วนจากด้านนอก ฟิล์มเคลือบสามารถใช้ได้กับการใช้งานต่างๆ รวมถึงบรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่นอื่นๆ ฟิล์มที่ผสมผสานการพิมพ์แบบกราเวียร์และวัสดุเคลือบเข้าด้วยกันให้คุณภาพการพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม ความทนทาน และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้ฟิล์มเคลือบเป็นตัวเลือกยอดนิยมในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์
ฟิล์มด้านนอกสำหรับการพิมพ์ ฟิล์มด้านในสำหรับการปิดผนึกด้วยความร้อน
ฟิล์มกลางเพื่อเสริมเกราะป้องกันแสง
เวลาโพสต์: 22 พ.ย. 2566
